ไปดู "ไหลดำ" หรือ "ไหลน้ำพี้" แห่งเมืองอุตรดิตถ์ ที่พูดถึงกันครับ
เริ่มจาก...
ก้อนแร่ซิลิก้าบริสุทธิ์-กับก้อนแร่ที่ถูกลนไฟแล้ว ดำปี๋เชียว
http://lh5.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TBJ7zfDJFZI/AAAAAAAAHYU/KmlQskR9omw/s640/DSCF1895.JPG
นี่แหละครับ before-after ของวัตถุธาตุศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาเรียก ไหลน้ำพี้ หรือ ไหลดำ เพิ่มมูลค่าด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นญาติกับเสด็จพี่เหล็กไหล โอ้โห ดังใหญ่เลยทีเดียวครับ
ไหลดำ แห่งน้ำพี้นี้ จากอ่านข่าว ท่านดร.บอกว่าเป็นแร่ซิลิก้าชนิดหายากในโลกครับ ในเอเชียพบ ๒ ที่ คือที่จีน กับที่ไทย ตรงนี้แหละครับ  แถบ ๆ อุตรดิตถ์ กับเมืองน่าน
แต่อุตรดิตถ์ไวกว่าครับ แฮ่ ๆ ทำขายกันเป็นล่ำเป็นสันไปแล้ว แหม ด็อกเตอร์กันเลยทีเดียว

มาดูการทำกันดีกว่าครับ

สรุปก็คือ

เอาแร่มา (ในขัน)
เขาบอกว่าหาได้แถว ๆ ถ้ำหลังน้ำพี้ครับ แถบนี้ถ้ำเยอะ

http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TBJ7y2galcI/AAAAAAAAHYI/xTG4EIF-hks/s512/DSCF1882.jpg
แล้วก็เอามาลนไฟ แบบไฟอ็อกเหล็ก แก๊ส ธรรมดา ๆ นี่แหละครับ
http://lh6.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TBJ7yzkY3mI/AAAAAAAAHYM/Puohc7xz2Xc/s640/DSCF1889.JPG
ไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย

ดูความเปลี่ยนแปลงครับ
http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TBJ7yh0HlSI/AAAAAAAAHYE/85qiGXozAXY/anigif.gif
จากหินสู่ไหหลิน เอ๊ย หินไหล ไหลดำ เห็นกันจะจะ!
http://lh4.ggpht.com/_pTG3in6GYZE/TBJ7zG2lBGI/AAAAAAAAHYQ/-MtQPYw0JPA/s512/DSCF1892.jpg
ก็ไอ้ก้อนหินทั้งเล็กทั้งใหญ่ที่กองอยู่นั่นแหละครับ ก้อนแร่ซิลิก้าโอบาม่าโอลัลล้าหายาก ที่กำลังจะกลายเป็นไหลดำในโอกาสอันใกล้

ไหลดำเมื่อไหลมาจากหินแบบหนืด ๆ แล้ว จะแข็งเหมือนแก้วเลยครับ แตกได้เหมือนกันถ้าทุบแรง ๆ
ถ้าจะว่าไป ที่มาไหลดำเหมือนตำนานเหล็กไหลเลยครับ คล้าย ๆ กันอย่างน่าประหลาด มิน่าชาวบ้านเขาถึงเชื่อว่าคุณไหลดำเป็นญาติกะคุณไหลเหล็ก

อา ขออภัย ลืมถ่ายรูปไหลดำที่เอามาวางขายในตู้แบบบ้าน ๆ ขอยืมจากพี่ไทย(รัฐ) หน่อยครับ
http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2010/01/06/badgdaebjid5ecbdci6h7.jpg
เสร็จแล้ว เป็นเม็ด ๆ เอามาใส่ตุ้มหู สอดตุ้มไห ใส่แหวน แขวนหน้ารถ ได้เลยครับ
เม็ดเล็ก ๆ ข้างบน เม็ดละ ๒ บาทครับ ตามบ้าน โอ้โห ถูกมาก ทำกันตรงนั้น ขายกันตรงนั้น แถมกันไม่อั้น
มีตั้งแต่ก้อนละราคา ๑ บาทจนถึง ๒๐ หรือจะเอาใหญ่สักน้องกำปั้นก็ได้
แต่ต้องสั่งพิเศษนะครับ สั่งแล้วนั่งรอได้เลย
ชาวบ้านจัดให้สาสมแก่ใจกันสด ๆ ทีเดียว

ถ้ามีคนมาขายก้อนเท่าในภาพ ก้อนละร้อย ไม่ต้องซื้อนะครับ โดนโก่งราคาแล้ว
แนะนำให้นั่งรถมาอุตรดิตถ์ครับ จากหมอชิตมาอุตรดิตถ์ก็สัก ๓-๔๐๐ บาท ลงขนส่ง ไปท่ารถน้ำพี้ในเมือง หรือเหมารถแท็กซี่ใจดีมาน้ำพี้สัก ๔-๕๐๐ บาท ก็ได้ครับ มาซื้อก้อนละ ๑ บาท ดีกว่าค้าบบบบบบบ

บ้านน้ำพี้ของเขาดี มาถึงแหล่งแล้วราคาถูก ๆ ทั้งนั้น รับรองถูกจนใจหายเลยครับ รับประกันความสดแท้ แม่ชม้อยยังยกนิ้วให้
แวะมาดูบ่อน้ำพี้จริง ๆ ของแท้ต้องบ่อพระแสง-พระขรรค์ แล้วอย่าลืมตกเบ็ดกันบนบ่อ ผู้ใหญ่ตกได้ ผู้หญิงตกดีครับท่าน
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a2/Bo_Lek_Nam_Phi_%28Nam_Pi_iron_mines%29_09.jpg/450px-Bo_Lek_Nam_Phi_%28Nam_Pi_iron_mines%29_09.jpg
ตกอะไร อยากรู้ ต้องมาเองครับ!





ต่อไปเป็นข่าวครับ โปรดใช้วิจารณจักรยานอ่านกันเองครับผม!

ตะลึงพบแร่ไหลดำ จ.อุตรดิตถ์ อายุนับร้อยล้านปี


ผอ.กองธรณีวิทยา พิสูจน์แร่ไหลดำ ตะลึง! มีอายุนับร้อยล้านปี อยู่ลึกใต้ผิวโลก 100 กิโลเมตร ชี้เป็นหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สำคัญของโลก ว่า จ.อุตรดิตถ์ กับ จ.น่าน เคยเป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกมาก่อน ...

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 มกราคม 53 ได้มีคณะของกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำโดย ดร.อดิชาติ  สุรินทร์คำ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยาฯ ได้เดินทางมายังบ้านของนายฟุ้ง เชื้อนพคุณ อายุ 66 ปี เลขที่ 43/1 บ้านน้ำพี้ หมู่ 1 ต.น้ำพี้ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว เพื่อทำการตรวจและพิสูจน์ก้อนแร่ไหลดำน้ำ พี้ ตามที่ชาวบ้านให้ความเชื่อว่า หากนำมาทำวัตถุมงคลจะสามารถทำให้ปลอดภัยและแคล้วคลาด รวมทั้งป้องกันภูติผีปีศาจ สิ่งเร้นลับที่ชั่วร้าย ป้องกันคุณไสย โดยเฉพาะผู้ที่มีไว้ครอบครองจะคงกระพันชาตรี อีกทั้งยังให้โชคลาภ

โดย ดร.อดิชาติ  กล่าวว่า ก้อนหินชนิดนี้หรือแร่ไหลดำตามภาษาของที่ชาวบ้านเรียกกันประกอบไปด้วยแร่หลายอย่างประกอบไปด้วย แร่ควอทซ์หรือ ซิลิก้า เซอร์เพนทีน และแร่เหล็ก เมื่อแร่ดังกล่าวถูกไฟเผาหรือเป่าลนตกลงมายังวัตถุที่ไว้ลองรับจะทำให้แร่ ชนิดนี้จับตัวกันเป็นก้อนหรือผลึก แร่ซิลิก้าเป็นแร่ชนิดเดียวกันกับที่นำมาทำเป็นกระจกใสหรือขวดแก้วใส แต่ได้ผ่านกระบวนการทางธรรมชาติทำความสะอาดให้แล้ว โดยมีทั้งลมและน้ำ ซึ่งถ้าหากว่าแร่ซอร์เพนทีนมีสีเขียวผสมอยู่ เมื่อใช้ความร้อนประมาณ 1,000 องศาขึ้นไป เป่าหรือลน แร่จะไหลออกมาเป็นสีเขียวปนใส แร่ซิลิก้าหากอยู่ปนกับแร่เหล็กและดินกันผสมอยู่ ภาษาวิทยาศาสตร์เรียกว่า มลทิน เมื่อถูกความร้อนจะไหลออกมาเป็นสีดำทึบ แสงเหมือนนิล แต่มีความมันเงาและแวววาวกว่านิล เนื่องจากมีแร่ซิลิก้าผสมอยู่ หากมีแร่ซิลิก้าผสมกับซอร์เพนทีนและแร่เหล็ก เมื่อถูกเผาก็จะออกมาเป็นอีกสีหนึ่งที่แปลกและแตกต่างกันออกไป เนื่องจากมีส่วนผสมของแร่แต่ละชนิดนั้นมากหรือน้อย การพบซึ่งแร่ดังกล่าวเป็นแร่ที่หาพบได้ยากมากในโลกนี้ จะมีเฉพาะที่จังหวัดอุตรดิตถ์และเขตติดต่อกับจังหวัดน่านของประเทศไทยเท่า นั้น

ส่วนในต่างประเทศก็จะพบที่ประเทศจีนแร่หินชนิดนี้เดิมทีอยู่ ใต้ทะเลลึกใต้พื้นผิวโลกมากกว่า 100 กิโลเมตร มีอายุหลาบร้อยล้านปี ซึ่งขบวนการทางธรณีวิทยาทำให้แร่ชนิดนี้เกิดโผล่ขึ้นมาอยู่บนพื้นผิวโลกนาน มาแล้วกว่า 130-150 ล้านปีที่ผ่านมา การพบแร่ชนิดนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มีการค้นพบแร่ชนิดนี้ในประเทศไทย นับว่าเป็นขบวนการทางธรณีวิทยาที่สำคัญของโลก ที่แผ่นเปลือกโลกทั้ง 2 ทวีป ได้มีการเคลื่อนตัวมาชนกัน ทำให้แผ่นดินในพื้นที่ดังกล่าวที่เคยอยู่ใต้ท้องทะเลกลับดันตัวเองขึ้นมาสู่ พื้นผิวโลกสัมผัสกับอากาศ ทำให้ปรากฏเป็นหลักฐานในพื้นที่ ของ จ.อุตรดิตถ์ โดยเฉพาะที่เขต อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ท่าปลา อ.น้ำปาดส่วนที่ อ.แม่จริม อ.นาน้อย อ.นาหมื่น จ.น่าน ยังเคยเป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกเมื่อในอดีตเมื่อ 130 ล้านปีที่ผ่านมาแล้ว

ในส่วนเรื่องของความเชื่อนั้นเป็นเรื่องความรู้สึกของชาวบ้าน บางคนนำแร่ไหลดำน้ำ พี้เข้าพีธีปลุกเสกร่วมกับพระพุทธรูปโดยจะเน้นให้พระเกจิอาจารย์ชื่อดังปลุก เสกก่อนนำมาคล้องคอและพกติดตัวตามความเชื่อของแต่ละบุคคล

ข้อมูลจาก ไทยรัฐ




ตะลึงพบหินหายากอายุ กว่า 1300 ล้านปีโผล่ที่เมืองอุตรดิตถ์



เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 มกราคม ดร.อดิชาติ สุรินทร์คำ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณี จำนวน 3 คน ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านน้ำพี้ หมู่ 1 ต.น้ำพี้ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ หมู่บ้านช่างตีดาบเหล็กน้ำพี้และใกล้กับพิพิธภัณฑ์บ่อเหล็กน้ำพี้ แหล่งท่องเที่ยวของ จ.อุตรดิตถ์ หลังทราบว่า ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำหินมาผ่านกระบวนการความร้อนสูงจนกลายเป็นหยดน้ำเมื่อแข็งตัวจะมีสีดำและสีเขียว มีความมันวาว

 ชาวบ้านให้ความเชื่อถือกันว่า หากนำมาทำเป็นวัตถุมงคลสามารถทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยและป้องกันภูติผีปีศาจ สิ่งเร้นลับที่ชั่วร้าย ป้องกันคุณไสย ผู้ที่ครอบครองจะคงกระพันชาตรี อีกทั้งให้โชคลาภ โดยชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเรียกว่า ไหลดำน้ำพี้

 กระนั้น เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ 43/1 บ้านน้ำพี้ หมู่ 1 ต.น้ำพี้ ซึ่งเป็นบ้านของนายฟุ้ง เชื้อนพคุณ อายุ 66 ปี อดีตช่างตีเหล็กน้ำพี้ และนางจำรัส เชื้อนพคุณ อายุ 63 ปี ภรรยา พบนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งกำลังมุงดูและเลือกซื้อวัตถุซึ่งเป็นสีดำและสี เขียว มีรูปลักษณ์เป็นวงกลม แบน คล้ายเงินเหรียญแต่จะนูน มีขนาดต่างกันไป ตั้งแต่เส้นผ่านศูนย์กลางครึ่งเซนติเมตร ไปจนถึง 3 เซนติเมตร ที่เจ้าของนำมาวางโชว์เป็นจำนวนมากภายในตู้กระจกและกำลังแนะนำคุณสมบัติให้ กับลูกค้า ราคาตั้งแต่ 100-300 บาท

 ผู้สื่อข่าวรายงานขณะเดียวกันที่บริเวณหน้าบ้านยังพบหินขนาดต่างๆ ลักษณะคล้ายหินดินดาน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 -60 นิ้วมีขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 200 กรัม ถึง 20 กิโลกรัม จำนวนกว่า 10 ก้อน กออยู่ ส่วนบริเวณหลังบ้านลูกชายเจ้าของบ้านกำลังเร่งผลิตสิ่งที่เชื่อว่า คือ ไหลดำพี้เพื่อให้ทันความต้องการของลูกค้าที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ความร้อนจากไฟอ๊อกที่ใช้สำหรับเชื่อมเหล็กทั่วไป ลนไปยังวัตถุซึ่งเป็นก้อนหินสีน้ำตาลปนดำ สังเกตเปลือกหินด้านใน เมื่อไฟจี้ล้นมากเข้าจะเป็นของเหลวมีสีดำค่อยไหลย้อยลงมายังแผ่นเหล็กที่ถูกวางรองรับไว้ด้านล่าง

 อีกทั้ง เมื่อโดนความเย็นวัตถุดังกล่าวได้เกาะตัวรวมกันเป็นก้อนกลมเหมือนก้อนนิลสี ดำที่ถูกเจียรนัยแล้ว ลักษณะผิวของวัตถุชิ้นนี้มีความมันแวววาวกว่าก้อนนิลที่ถูกนำมาเป็นเครื่อง ประดับ แต่หากเป็นก้อนหินที่มีสีขาวคล้ายหินปูน เมื่อผ่านกระบวนเช่นเดียวกันจะกลายเป็นสีเขียว มีความมันวาวเช่นกัน

 ทั้งนี้ ดร.อดิชาติ ได้หยิบก้อนหินขึ้นมาดูและสัมผัส พร้อมกล่าวว่า หินดังกล่าวเรียกว่าแร่ซิลิก้า สำหรับไหลดำน้ำพี้ เป็นชื่อที่ชาวบ้านอาจตั้งกันเอง ภายในก้อนหินดังกล่าวประกอบด้วยแร่หลายชนิดทั้ง ควอทซ์ หรือซิลิก้า เซอร์เพนทีนและแร่เหล็ก เป็นหินที่ นับว่าหายากมากในโลกนี้ ในทวีปเอเชีย มีเฉพาะที่ประเทศไทยและจีน ซึ่งไทยพบเพียง 2 จังหวัดคือ จ.อุตรดิตถ์ และน่าน ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์พบที่ อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด ส่วน จ.น่านพบที่ อ.แม่จริม อ.นาน้อย และอ.นาหมื่น

 สำหรับหินชนิด นี้เดิมทีอยู่ใต้ทะเลมีอายุกว่า 1,300 ล้านปี และอยู่ลึกใต้พื้นผิวโลกมากกว่า 100 กิโลเมตร แต่มีขบวนการทางธรณีวิทยาทำให้เกิดอยู่บนพื้นผิวโลกมาแล้วกว่า 130-150 ล้านปีที่ผ่านมา ถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีการค้นพบแร่ชนิดนี้ในประเทศไทย นับว่าเป็นขบวนการทางธรณีวิทยาที่สำคัญของโลก ที่แผ่นเปลือกโลกทั้ง 2 ทวีป ได้มีการเคลื่อนตัวมาชนกัน ทำให้แผ่นดินในพื้นที่ดังกล่าวที่เคยอยู่ใต้ท้องทะเลกลับดันตัวเองขึ้นมาสู่ พื้นผิวโลกสัมผัสกับอากาศ ทำให้ปรากฏเป็นหลักฐานชี้ชัดและเป็นหลักฐานถึงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลกว่า ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.น่าน โดยเฉพาะจุดที่พบหินดังกล่าว เคยเป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกเมื่อในอดีตเมื่อ 130 ล้านปีที่แล้ว

 ดร.อดิชาติ กล่าวว่า สำหรับคุณค่าของหินขึ้นอยู่กับว่าหินแต่ละก้อนมีความหนาแน่นของแร่ประเภทไหน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามคุณสมบัติ สาเหตุที่หินเมื่อ ถูกความร้อนแล้วกลายเป็นสีดำและสีเขียวนั้น เนื่องมาจากแร่ซิลิก้าเป็นแร่ชนิดเดียวที่นำมาทำเป็นกระจกใสหรือขวดแก้วใส แต่ถูกธรรมชาติทำความสะอาดให้แล้ว หากมีแร่ซอร์เพนทีนซึ่งเป็นสีเขียวผสมอยู่ด้วย เมื่อเป่าลนด้วยความร้อนประมาณ 1,000 องศาขึ้นไป แร่จะไหลออกมาเป็นสีเขียวปนใส แร่ซิลิก้าหากอยู่ปนกับแร่เหล็กและดินผสมอยู่ ภาษาวิทยาศาสตร์เรียกว่า มลทิน เมื่อถูกนำมาลนด้วยความร้อนจะไหลออกมาเป็นสีดำทึบแสงเหมือนนิล แต่มีความมันเงาและแวววาวกว่านิล เนื่องจากมีแร่ซิลิก้าผสมอยู่ หากมีแร่ซิลิก้าผสมกับซอร์เพนทีนและแร่เหล็ก เมื่อถูกเผาก็จะออกมาเป็นอีกสีหนึ่งที่แปลกแตกต่างกันออกไป เนื่องจากส่วนผสมของแร่ชนิดนั้นมากหรือน้อย

 “สำหรับเรื่องที่ชาวบ้านเชื่อว่า สามารถแก้คุณไสยแก้อาถรรพ์ และสามารถรักษาหรือดูดซับพิษจากสัตว์ที่มีพิษกัดต่อยหรือใครมีไว้ครอบครองจะ เกิดโชคลาภ ก็เป็นไปในเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ผลทางวิทยาศาสตร์ก็ว่ากันไปในรูปแบบหนึ่ง ไม่สามารถไปห้ามความเชื่อชาวบ้านได้ เพราะเป็นวัฒนธรรมความเชื่ออย่างหนึ่ง แร่ชนิดนี้เหมาะที่จะนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพราะมีความสวยงามดี อยู่ที่ฝีมือของช่างในการแปรสภาพให้ออกมาเป็นเครื่องประดับ” ดร.อดิชาติ กล่าว

 นายฟุ้ง เชื้อนพคุณ กล่าวว่า พบเห็นไหลดำครั้งแรกจากวัดน้ำพี้ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน มีการนำวัตถุชนิดนี้เข้าในพิธีสวดภาณยักษ์เมื่อประมาณเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา สอบถามพระคุณเจ้าทราบว่า ช่วยขับไล่เสนียดจัญไร ป้องกันภูมิผีปีศาจ คุณไสย์ แคล้วคลาด แก้พิษจากสัตว์มีพิษกัดต่อย อาทิ ผึ้ง แตน ตะขาบ แมงป่อง งูมีพิษปลายปลากระเบนปักและแง่งปลาดุกปักเข้าที่ลำตัว ทาถูบริเวณที่ถูกกัดต่อย ซึ่งชาวบ้านให้ความเชื่อถือในเรื่องนี้มากและได้มีการพิสูจน์กันมาบ้างแล้ว ได้สืบทราบแหล่งที่มาอยู่ที่บริเวณถ้ำผาแดงและด้านหลังบ่อเหล็กน้ำพี้ จึงไปสืบเสาะค้นหามาเมื่อได้แล้วก็ทำพิธีอัญเชิญด้วยการบรวงสรวงเจ้าที่และ เหล่าเทพเทวาซึ่งเป็นเทวดาที่รักษาดูแลอยู่ด้วยเครื่องบายศรี ก่อนที่จะนำมาทำเป็นเครื่องประดับจำหน่ายขายในราคาชิ้นละ 100-300 บาท และยึดเป็นอาชีพหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวมานานเกือบ 1 ปี

ข้อมูลจาก คมชัดลึก





ชาวบ้านอุตรดิตถ์ แพร่ น่าน ตื่น ไหลดำน้ำพี้ แห่ขอบูชาเชื่อ ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย และให้โชคลาภ ...


เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 52 เวลา 10.00 น. ได้มีชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศที่อยุ่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ไปจนถึงจังหวัดแพร่และจังหวัดน่านจำนวนมาก ได้เดินทางมายังบ้านของนายฟุ้ง เชื้อนพคุณ อายุ 65 ปี เลขที่ 43/1 บ้านน้ำพี้ หมู่ 1ต.น้ำพี้ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ อดีตช่างตีเหล็กน้ำพี้ เพื่อขอบูชาไหลดำหรือไหลน้ำพี้ ซึ่งตั้งโชว์อยู่ในตู้กระจกบริเวณหน้าบ้านไม้ชั้นเดี่ยวโดยมีนางจำรัส เชื้อนพคุณอายุ 62 ปีภรรยาของนายฟุ้ง เป็นผู้ดูแลจากการเปิดเผยของ นายฟุ้ง กล่าวว่า ไหลดำนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล แต่ยังไม่ถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้แพร่หลายออกไป ไหลดำนอกจากจะช่วยในเรื่องของความแคล้วคลาดปลอดภัย สิ่งเร้นลับที่ชั่วร้ายเวทมนต์อวิชารวมไปถึงมนต์ดำทุกชนิด ยังป้องกันภูติผีปีศาจ ป้องกันคุณไสย์และคงกระพันชาตรีแล้ว ยังสามารถแก้โรคร้อนวิชา สำหรับคนที่เคร่งเครียดต่อการเรียนวิชาทางไสยศาสตร์จนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง แก้พิษจากสัตว์หลายประเภท อาทิ ผึ้ง แตน ตะขาบ แมงป่อง งูมีพิษ ปลากระเบน และแง่งปลาดุกที่ปักเข้าตามลำตัว"

ไหลดำถือเป็นธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์ชนิดเดียวกับเหล็กไหล ผู้ที่มีไว้ครอบครองต้องเข้าถึงด้วยพลังอำนาจจิตที่บริสุทธิ์ของตนเองจากผล บุญกุศลที่ได้สร้างเอาไว้ หากใครที่คิดชั่วร้าย แม้มีไหลดำติดตัวเอาไว้ใช่ว่าจะป้องกันภัยให้กับตนเองได้ในยามคับขัน ในเรื่องโชคลาภก็จะไม่บังเกิด การที่คนเราจะนำไหลดำสิ่งของชนิดนี้มาใช้ได้ จิตของผู้ครอบครองกับไหลดำจะต้องสื่อถึงกันหรือเข้าถึงกันได้ สังเกต ง่ายๆถ้าต้องการสัมผัส ไหลดำ ให้ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างวางบนก้อนไหลดำหากสื่อถึงกันได้จริงเส้นขนบนแขนทั้ง สองข้างจะตั้งลุกชันขึ้นมาทันที นี้คือพลังอำนาจที่เข้าถึงกันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ถือศีล คนธรรมดาก็เข้าถึงได้ ขอให้ทุกคนมีจิตที่แน่วแน่ไม่แปรปรวน

สำหรับตนแล้วรู้จักคำว่าไหลดำ จากการที่ทางวัดน้ำพี้ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ได้มีการนำวัตถุชนิดนี้เข้ามาทำพิธีในพิธีสวดภาณยักษ์เมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยขับไล่เสนียดจัญไร ภูมิผีปีศาจที่อาศัยอยู่ในร่างคนรวมถึงผู้ที่โดนคุณไสย์ สืบทราบว่าแหล่งแร่ไหลดำนั้นมีแหล่งอยู่ที่บริเวณถ้ำผาแดงและด้านหลังบ่อ เหล็กน้ำพี้ จึงไปสืบเสาะค้นหามาเมื่อได้แล้วก็ลองผิดลองถูกในวิชาที่ได้เรียนรู้จากครู บาอาจารย์ กระทำเป็นผลสำเร็จสามารถทำไหลดำมาได้ถึงปัจจุบันนี้ หลายคนในหมู่บ้านทราบข่าวต่างก็มีความต้องการอยากจะทำไหลดำแบบที่ตนเองทำ ก็พยายามสืบเสาะค้นหาวิธีการทำและขั้นตอนต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ไหลดำใช่ว่าทุกคนจะทำได้เสมอไปเหมือนการทำแร่เหล็กน้ำพี้

เหตุที่ทำไม่ได้เพราะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่าเหล็กน้ำพี้โดยเฉพาะการเข้า ถึงธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์การสื่อถึงในตัวธาตุกายสิทธิ์ของไหลดำ ขนาดตนเองเคยสอนวิธีการทำไหลดำให้กับลูกหลานคนในครอบครัวเพื่อเป็นการสืบทอด ต่อก็ยังไม่สามารถทำได้เลยเมื่อจิตใจของผู้กระทำสื่อเข้าไม่ถึงถ้าได้หิน หรือธาตุไหลดำนี้มาก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ทำไปก็มีแต่จะเกิดการแตกหักหลายคนต้องนำหินหรือธาตุไหลดำมาวางตั้งทิ้งเอา ไว้ที่หน้าบ้านหรือภายในบ้านทิ้งเอาไว้เฉยๆ

นายฟุ้ง อดีตช่างตีเหล็กน้ำพี้ ปัจจุบันเป็นเจ้าของแร่ไหลดำ ที่มีแห่งเดียวในจังหวัดอุตรดิตถ์และแห่งเดียวในหมู่บ้านของบ้านน้ำพี้ กล่าวว่าไหลดำที่มีรูปร่างกลมและมีขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 2-3.5 เซนติเมตร นี้ทางร้านของเรามีจำหน่ายในราคาเม็ดละตั้งแต่ 30 บาทจนถึงราคาเม็ดละ 300 บาทนอกเหนือจากจะมีติดตัวไว้เพื่อป้องกันภัยต่างๆแล้ว ยังมีการนำมาทำเป็นเครื่องประดับที่สวยงามติดตัวได้อีกโดยนำธาตุไหลดำนำมา ตกแต่งเป็นเครื่องประดับร่วมกับคริสตัลให้เป็นประเภทสร้อยคอซึ่งจากการสัง เกตุของผู้สื่อข่าวพบว่ามีก้อนหินแร่ไหลดำอยู่ด้วยกันประมาณกว่า 10 ก้อน มีหลายขนาดน้ำหนักตั้งแต่ประมาณ 0.3 กรัม ถึงขนาดก้อนใหญ่น้ำหนัก 20 กิโลกรัมวางอยู่ข้างบ้านติดกับเสาต้นไม้สักที่ใช้ทำเพิงกันสาดบริเวณหน้า บ้าน วางเรียงซ้อนกันอยู่ ก้อนหินดังกล่าวเป็นเหมือนก้อนหินทั่วไป

นอกจากนี้นายฟุ้งยังได้เชิญชวนผู้สื่อข่าว ได้ชมวิธีการทำไหลดำจากก้อนหินแร่ไหลดำที่บริเวณด้านหลังของบ้านของตนเอง ซึ่งตั้งถูกดัดแปลงให้เป็นสถานที่ผลิตไหลดำพบว่ามีการนำก้อนหินที่มีลักษณะ ผิวด้านนอกมีเป็นสีขาววางไว้บนเหล็กรูปร่างคล้ายรางรถไปยาวประมาณ 40 เซ็นติเมตรและนำหัวตัดแก๊สจุดไฟให้มีความร้อนสูง นำมาเผาหรือรนก้อนหินดังกล่าวเมื่อก้อนหินดังดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นแร่ไหล ดำหรือไหลน้ำพี้ เมื่อโดนความร้อนสูงก็จะเปลี่ยนสีเกิดเป็นสีดำแทน เมื่อใช้ความร้อนของไฟเผาต่อไปอีกก็จะกลายเป็นของเหลวมีสีดำไหลย้อยลงมายัง แผ่นเหล็กที่ถูกวางรองรับไว้ด้านล่างเมื่อของเหลวที่มีสีดำโดนความเย็นจึง เกาะตัวรวมกันเป็นก้อนกลมเหมือนก้อนนิลสีดำที่ถูกเจียรนัยแล้ว ลักษณะผิวของธาตุไหลดำนี้จะมีความมันแวววาวเหมือนกระจกจะมองเห็นภาพเงาของตน เองอยู่ภายในนั้นด้วยหลายคนที่เห็นกรรมวิธีทำต่างก็ทึ่งกับธาตุหินดังกล่าว ซึ่งก้อนหินชนิดนี้ข้างนอกดูเป็นก้อนหินธรรมดาทั่วไปเปลือกผิวข้างนอกก็ยัง ดูปกติเหมือนก้อนหินทั่วไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง หลังมีการใช้ไฟเผาที่บริเวณก้อนหินที่เปลือกหินดังกล่าวจะเปลี่ยนสีทันที ด้านนางสุภาภรณ์ เหล่าสกุล อายุ 48 ปี ประธานกรรมการผู้จัดการ NSP เคเบิ้ลทีวี จังหวัดแพร่ กล่าวว่า เชื่อในเรื่องของไหลดำหรือไหลน้ำพี้จากบรรพบุรุษปู่ย่า ตายายพยายามสืบเสาะค้นหา เนื่องจากทราบว่าเป็นแร่ที่ศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพไม่ด้อยไปกว่าเหล็กไหล เพียงแต่เหล็กไหลเราเคยได้ยินต่อ ๆ กันมาเท่านั้น

ส่วนไหลดำสามารถจับและสัมผัสของจริงได้ที่บ้านน้ำพี้ เชื่อในเรื่องของพุทธานุภาพพลังอำนาจที่สถิตย์อยู่ภายใน ทั้งในเรื่องของการป้องกันคุณไสย์และให้โชคลาภ ช่วยคุ้มครองในสิ่งต่างๆ ล่าสุดถูกลอตเตอรี่ รางวัลเลขท้าย 2 ตัวติดต่อกัน 2 งวดแล้วหลังจากที่นำไปบูชา ทั้งนี้ตนเองยังได้นำธาตุไหลดำไปแจกจ่ายให้กับญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัดโดย เฉพาะญาติๆที่เป็นข้าราชการตำรวจและทหารซึ่งชาวบ้านที่มาท่องเที่ยวที่บ้าน น้ำพี้ ได้เห็นการทำธาตุไหลดำและได้รู้ถึงสรรพคุณในด้านการแก้และป้องกันคุณไสย ได้แห่ซื้อธาตุไหลดำชนิดดังกล่าวไปเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปฝากเพื่อนและญาติพี่น้องที่เป็นข้าราชการตำรวจ ทหาร หลายคนมีญาติปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ซึ่งทุกคนเชื่อว่าธาตุไหลดำดังกล่าวที่ซื้อไปบูชาจะทำให้เกิดความปลอดภัยจาก คมกระสุนและลูกระเบิด รวมถึงนำติดตัวไว้เพื่อเป็นวัตถุมงคลให้เกิดความแคล้วคลาดปลอดภัย แถมยังมีโชคลาภ



ไทยรัฐออนไลน์





ข้อมูลจาก-
"ตะลึงพบแร่ไหลดำ จ.อุตรดิตถ์ อายุนับร้อยล้านปี,"  (๒๕๕๓, มกราคม ๗).  ไทยรัฐออนไลน์.  [ออน-ไลน์].  หน้า๑.  แหล่งที่มา : http://www.thairath.co.th/content/region/57244

"พบหินหายากอายุกว่า1300ล้านปีโผล่ที่อุตรดิตถ์,"  (๒๕๕๓, มกราคม ๖).  คมชัดลึกออนไลน์.  [ออน-ไลน์].  หน้า๑.  แหล่งที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20100106/43679/%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B21300%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B9%8C.html
<embed id="MediaPlayer" type="application/x-mplayer2" src="http://gotoknow.org/file/tevaprapas/watkung_metta_2553.wmv" showcontrols="1" showstatusbar="1" allowscriptaccess="never" autostart="1" width="678" height="396">